ตาข่ายกรองแสงกับพืชแต่ละชนิด

ตาข่ายกรองแสง หรือ สแลน ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นิยมใช้ทางการเกษตร เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยลดปริมาณของแสง ลดอุณหภูมิ ระบายความร้อน ลดแรงตกกระทบของลมและฝน ป้องกันแมลง ซึ่งปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม พืชแต่ละชนิดมีความต้องการแสงไม่เท่ากัน และในช่วงเวลาของการเพาะเมล็ดก็ต้องการแสงแดดมากที่สุด ดังนั้นผู้ปลูกจึงจำเป็นต้องเลือกสแลนให้เหมาะกับพืชที่จะปลูกในแต่ละช่วงเวลาด้วย วันนี้เราจึงมีคำแนะนำในการเลือกตาข่ายกรองแสงให้เหมาะกับพืชแต่ละชนิดมาฝาก 

  1. พืชที่ต้องการแดดจัด มักจะเป็นพืชที่ทานผล เช่น  แตงกวา พริก มะเขือต่างๆ กล้วย ทับทิม มะละกอ มะกรูด พืชเหล่านี้ใช้ตาข่ายกรองแสง 20%-30% หรือไม่จำเป็นต้องใช้ตาข่ายกรองแสง
  2. พืชที่ต้องการแสงแดดปานกลาง มักจะเป็นพืชกินใบ เช่น คะน้า ผักกาด ผักบุ้ง ผักชี ผักสลัด ผักกาดหอม กรีนโอ๊ก เเละเรดโอ๊ก ขึ้นฉ่าย พืชเหล่านี้ใช้ตาข่ายกรองแสงประมาณ 50%-60%
  3. พืชที่ต้องการแดดรำไร มักเป็นพืชผักพื้นบ้าน เช่น กระเพรา โหระพา ผักชี ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักกูด ใบย่านาง ผักแพว ขิง ข่า ตะไคร้ สะระแหน่ พืชเหล่านี้ต้องใช้ตาข่ายกรองแสงสีดำ หรือตาข่ายกรองแสงเปอร์เซ็นต์สูงตั้งแต่ 70% เป็นต้นไป 

นอกจากพืชผักต่างๆแล้วไม้ดอกไม้ประดับก็ต้องการแสงแดดต่างกัน เช่นกัน 

  1. ไม้ดอกที่ต้องการแดดจัด ยิ่งเจอแดดมากเท่าไรยิ่งดี เพราะจะทำให้สีสันของไม้ดอกเหล่านี้งดงามยิ่งขึ้น เช่น  เฟื่องฟ้า แก้ว ชบา แพรเซี่ยงไฮ้ โป๊ยเซียน ชวนชม ไม้ดอกเหล่านี้ทนแดด และไม่ต้องการน้ำมาก อาจใช้ตาข่ายกรองแสง 20%-30% ก็เพียงพอแล้ว
  2. ไม้ดอกที่ต้องการแสงแดดปานกลาง เช่น เบญจมาศ กุหลาบ ไฮเดรนเยีย พืชเหล่านี้ใช้ตาข่ายกรองแสงประมาณ 50%-60%
  3. ไม้ดอกที่ต้องการแดดรำไร เช่น ขิงแดง ต้นคริสต์มาส หน้าวัว ควรใช้ตาข่ายกรองแสงเปอร์เซ็นต์สูงตั้งแต่ 70% เป็นต้นไป 

ไม้ดอกบางประเภท เช่น กล้วยไม้ หรือกระบองเพชร ผู้ปลูกต้องศึกษาวิธีการปลูกของแต่ละสายพันธุ์ร่วมด้วย เนื่องจากความต้องการแสงแดดของแต่ละสายพันธุ์ไม่เหมือนกัน และปริมาณแสงแดดในแต่ละฤดูก็แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือการคอยหมั่นสังเกต และการปรับแสง อุณหภูมิ ความชื้น และปัจจัยต่างๆให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตในแต่ละช่วงเวลา การเลือกซื้อตาข่ายกรองแสงนอกจากจะดูปริมาณการกรองแสงแล้ว ต้องเลือกตาข่ายที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพ ไม่เปื่อยหรือ ฉีกขาดง่าย เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องอยู่กลางแดด กลางฝนตลอดเวลา ตาข่ายกรองแสงที่มีการเคลือบกันยูวีก็จะช่วยปกป้องพืชจากแสงยูวีและยืดอายุการใช้งานของตาข่ายได้อีกด้วย