แม้ว่าจะมีการรณรงค์ให้มีการใช้ถุงผ้าเพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก แต่ก็ต้องยอมรับว่าถุงหูหิ้วหรือถุงก๊อบแก๊บยังคงมีการใช้กันอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะร้านค้าต่างๆ จะนำมาใส่สินค้าให้ลูกค้า เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้สะดวก มีหลายขนาด มีหูหิ้ว สามารถผูกเข้าด้วยกันเพื่อกันไม่ให้สิ่งของหล่นออกจากถุง มีน้ำหนักเบา ราคาถูก สามารถกันน้ำได้ และรับน้ำหนักได้พอประมาณ ถุงหูหิ้วผลิตจากเม็ดพลาสติก PE  (Polyethylene) เป็นเม็ดพลาสติกที่มีคุณสมบัติแข็งแรง เหนียว ทนทาน ป้องกันความชื้น ไม่ให้ผ่านเข้าออกได้

ถุงหูหิ้วเกรดเอสามารถนำมาใส่อาหาร เช่น ผักผลไม้หรืออาหารแห้งได้อีกด้วย เนื่องจากไม่มีกลิ่นเหม็นฉุน แต่ไม่ควรนำไปใส่อาหารปรุงสุก โดยเฉพาะถุงหูหิ้วเกรด 2 ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล เนื่องจากไม่ใช่ถุงที่ทนความร้อน และมีกลิ่นเหม็น อาจทำให้มีสารพิษปนเปื้อนเป็นอันตรายได้ ถุงหูหิ้วมีหลายขนาดหลายสี และยังมีถุงหิ้วใสไม่มีสี หรือที่เรียกกันว่าถุงหูหิ้วไฮโซเพราะใส่สินค้าแล้วดูดี สามารถขยายได้มากน้อยตามการออกแบบ

หากมีจีบขนาดใหญ่ก็สามารถขยายออกด้านข้างได้มาก และมีความหนาบางแตกต่างกันไป ถุงหูหิ้วที่หนากว่าย่อมมีความแข็งแรงมากกว่าและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง เป็นการลดขยะพลาสติกอีกทางหนึ่งด้วย ถุงหูหิ้วสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ซุปเปอร์มาร์เก็ต และทางร้านค้าออนไลน์

ถุงหูหิ้วนิยมขายเป็นกิโลกรัม เนื่องจากความหนาบางไม่เท่ากัน 1 กิโลกรัมจึงอาจได้ปริมาณถุงไม่เท่ากัน การเลือกซื้อถุงหูหิ้ว ก็ขึ้นกับความเหมาะสมในการใช้งานตามขนาดและน้ำหนักของสิ่งของที่จะนำมาใส่ หากใส่ของที่น้ำหนักมากควรเลือกถุงที่มีความเหนียวและหนาฉีกขาดยาก ถุงหูหิ้วมีหลายขนาดแต่ก็เป็นขนาดมาตรฐาน แต่ถ้าใครต้องการขนาดหรือความหนาจำเพาะก็สามารถสั่งทำพิเศษได้

นอกจากนี้ถุงหูหิ้วยังสามารถพิมพ์ลายต่างๆและโลโก้ของร้านเพื่อโปรโมทร้านค้าได้อีกด้วย ถุงหูหิ้วที่ดีควรมีความยืดหยุ่นและไม่บางเกินไป สามารถรับน้ำหนักได้ดีโดยเฉพาะส่วนที่เป็นหูหิ้ว และส่วนก้นถุง เพราะถ้าบางเกินไปทำให้ผู้ใช้ต้องซ้อนถุงเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เป็นการสิ้นเปลืองและเพิ่มปริมาณขยะ ถุงหูหิ้วควรผลิตจากเม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพเพื่อไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ผิวของถุงหูหิ้วก็ควรมีลักษณะเรียบลื่น สามารถถือได้กระชับมือ ข้อควรระวังในการใช้ถุงหูหิ้วคือ ควรเก็บให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพราะอาจทำให้ขาดอากาศหายใจได้